รู้หรือไม่ ฤดูร้อนหรือหน้าร้อนในประเทศไทย กินเวลากี่เดือน คำตอบคือ 2 เดือนครึ่ง คือตั้งแต่ มีนาคม จนถึงพฤษภาคม ส่วนฤดูฝน จะกินเวลา 5 เดือนครึ่ง คือช่วง พฤษภาคม จนถึง ตุลาคม และฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่ พฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าฤดูร้อนในไทยกินระยะเวลาไม่นาน แต่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่า ไม่ว่าฤดูไหนก็ร้อนอยู่ดี
จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ คนส่วนใหญ่ต้องหาวิธี ทำให้บ้าน หรือที่อยู่อาศัยเย็นขึ้น ซึ่งวิธีที่ง่าย และ เห็นผลที่สุดคงจะต้องเป็นการติดเครื่องปรับอากาศ แต่ก็จะตามมาด้วยค่าไฟที่แพงขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ นิยมใช้กัน คือการติดฉนวนกันความร้อนหลังคา หรือ ใช้ฉนวนวางบนฝ้า เพื่อลดอุณหภูมิและการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคาร และบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี แถมยังทำช่วยลดภาระการทำงานและการใช้ไฟ ของเครื่องปรับอากาศให้ลดลงอีกด้วย
สำหรับบ้านที่สร้างเสร็จแล้วหรือ บ้านจัดสรร ฉนวนกันความร้อนที่นิยมใช้ จึงเป็น ฉนวนวางบนฝ้า หรือฉนวนบนฝ้า เนื่องจากลักษณะการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งฉนวนกันความร้อนมีอยู่ในตลาดมากมาย เช่น ฉนวนโฟม ฉนวน PE ฉนวน PU แต่ที่นิยมนำมาใช้ สำหรับ ฉนวนวางบนฝ้า นั่นคือ ฉนวนใยหิน และ ฉนวนใยแก้ว เนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟและติดไฟยาก(ตามลำดับ) ไม่เหมือนกับฉนวนประเภท โฟมที่เมื่อติดไฟ จะลามไฟ และก่อให้เกิดควันพิษ
ฉนวนวางบนฝ้า ใยหิน และใยแก้ว ขนาดโดยทั่วไปที่วางขายในตลาดจะอยู่ที่ (กว้าง 0.6 เมตร x ยาว4เมตร) พื้นที่รวมต่อม้วน 2.4 ตารางเมตร ความหนา 75 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นม้วน ห่อหุ้มด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อน และด้วยความหนาของฉนวน ประมาณ 75 มิลลิเมตร จะช่วยต้านทานความร้อนจากภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
ฉนวนใยแก้วที่รู้จักกันโดยทั่วไป ก็คือ ฉนวนวางบนฝ้า SCG รุ่น Stay cool ฉนวน ซันชิลด์ และฉนวนใยหิน สำหรับวางบนฝ้าก็คือ ROCKWOOL (ร็อควูล) รุ่น Rock Chill ที่ไม่ติดไฟ ไม่ลามไฟ ทนไฟมากกว่า 1000 องศาเซลเซียส กันร้อนดี สามารถกันเสียงรบกวนได้ และได้รับการรับรองจากสถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ(IARC) ว่าไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งราคาที่ขายอยู่ในตลาดก็เพียงหลักร้อย ต่อม้วน จึงทำให้เป็นที่นิยมในงานปูบนฝ้า เพราะการลงทุนในการปูฉนวนกันความร้อนเพียงครั้งเดียว ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน แถมช่วยลดความร้อนและ ประหยัดค่าไฟ อีกด้วย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และสั่งชื้อได้ที่
FB : https://www.facebook.com/
Website (Blog) : https://www.rockwoolth.com/